BLACKJACK
แบล็คแจ็ค Blackjack คือเกมเดิมพันไพ่ที่ได้รับนิยมมากที่สุดในคาสิโนแถบยุโรป เหตุผลที่แบล็คแจ็คกลายเป็นเกมที่เหล่าเซียนพนันชื่นชอบนั้นมาจากรูปแบบการเล่นที่ไม่ตายตัว โดยเราสามารถรู้จักใช้ไหวพริบต่างๆ เพื่อลดโอกาสเสียหรือขาดทุน และเพิ่มโอกาสในการชนะรางวัลได้ ไม่ว่าจะเป็นการแยกไพ่ เก็บไพ่ การยอมแพ้ หรือการเรียก สำหรับนักพนันออนไลน์มืออาชีพส่วนมากมักนิยมการเล่นแบล็คแจ็ค เพราะว่าโอกาสได้เสียหรือผลลัพธ์ของการเดิมพัน สามารถควบคุมได้ อยู่ที่การตัดสินใจของเราเอง หากท่านใดสนใจสามารถเล่นแบล็คแจ็คได้แล้ววันนี้
กติกาไพ่แบล็คแจ็ค
หลังจากแจกไพ่ครบ ทุกคนสามารถจั่วไพ่ได้ไม่จำกัด จนกว่าแต้มของท่านจะใกล้เคียงกับ 21 มากที่สุด แต่ห้ามเกิน 21 แต้ม หากเกินก็จะหมดสิทธิ์ ถือว่าแพ้ในทันที และแบล็คแจ็คเป็นเกมการเล่นของผู้เล่นกับเจ้ามือ แต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะจะไม่ส่งผลต่อไพ่ของคุณแต่อย่างใด
วิธีนับแต้มไพ่
- ไพ่ 2 – 10 มีแต้มเท่ากับตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าของไพ่
- ไพ่ J Q K มีแต้มเท่ากับ 10 แต้ม
- A มีแต้มเท่ากับ 1 หรือ 11 ก็ตามแต่ไพ่ในมือของท่านจะมีจำนวนแต้มรวมเท่าใด
- แต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 จะเรียกแทนว่า “ไพ่แบล็คแจ็ค”
ศัพท์ที่ใช้ในการเล่น แบล็คแจ็ค
- Hit (จั่วไพ่): ในการเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ หากท่านกดปุ่ม Hit นั่นถือเป็นการจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ โดยกรณีที่ไพ่ของท่านมีแต้มน้อยกว่า 21 แต้ม ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มไพ่หรือไม่เพิ่ม ส่วนของเจ้ามือมีข้อจำกัดไว้ในกรณีที่ไพ่ทั้งสองใบของเจ้ามือเท่ากับ 16 แต้ม หรือต่ำกว่า 16 แต้ม ซึ่งเจ้ามือจำเป็นต้องจั่วเพิ่ม แต่หากไพ่ของเจ้ามือเท่ากับ 17 แต้ม หรือมากกว่า 17 แต้มจะไม่สามารถจั่วไพ่ได้
- Stand (หยุดไพ่): ในการเล่นหากท่านกดปุ่ม Stand นั่นหมายความว่า ท่านไม่เรียกไพ่เพิ่มและแต้มในมือจะเท่าเดิม ซึ่งเป็นการหยุดไพ่ที่ท่านสามารถเลือกหยุดไพ่ได้ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ๆ
- Split (แยกไพ่): กรณีของการแยกไพ่ Split จะเกิดขึ้นเมื่อท่านนั้น จั่วได้ไพ่คู่ นั่นคือเมื่อไพ่ที่ท่านได้รับ 2 ใบแรก เป็นไพ่คู่ ท่านสามารถแบ่งไพ่ในมือเป็น 2 กองได้ ซึ่งเดิมพันของไพ่แต่ละกองนั้นจะเท่ากับเดิมพันที่เดิมพันไว้ตอนแรก กรณีไพ่ที่แยกเป็นไพ่เอซ (Ace) แต่ละชุดไพ่จั่วไพ่ได้แค่ใบเดียวหลังจากแยกไพ่แล้วได้แบล็คแจ๊ค ก็ต้องนับเป็น 21 แต้มธรรมดา ซึ่งเกมหนึ่งแยกไพ่ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
- Double Down (เดิมพันสองเท่า): หมายถึง การวางเดิมพัน เป็นสองเท่า โดยหลังจากที่ท่านได้ไพ่สองใบแรกแล้วมั่นใจว่าไพ่ใบที่สามจะเป็นเลขนำโชคสามารถเลือกเดิมพันอีกครั้งซ้ำจากครั้งที่แล้ว และการจั่วไพ่จะทำได้แค่ใบเดียว หากได้ แบล็คแจ๊ค ไม่สามารถเดิมพันสองเท่า โดยท่านจะเดิมพันสองเท่าได้ภายหลังจากทำการแยกไพ่เท่านั้น
- Insurance (เดิมพันไพ่ประกัน): หากไพ่ที่เปิดอยู่ของเจ้ามือ เป็นไพ่เอซ (Ace) ผู้เล่นสามารถเดิมพันไพ่ประกันได้ และยอดเดิมพันประกันต้องเป็นจำนวนครึ่งของเงินเดิมพันที่วางไว้ หากท่านเชื่อว่าไพ่ต่อไปของเจ้ามือเป็นแต้ม 10 ก็สามารถเลือกเดิมพันประกันได้อีก หลังจากท่านเดิมพันประกันแล้ว หากเจ้ามือได้ แบล็คแจ๊ค จริง ๆ ท่านชนะเป็นสองเท่า ของยอดเดิมประกันหรือครึ่งหนึ่งของยอดวางเดิมพัน แต่หากเจ้ามือไม่มี แบล็คแจ๊ค หมายความว่า ท่านเสียเงินประกันทั้งหมดแล้วเริ่มรอบใหม่
- Even Money (เก็บก่อน): หากท่านได้ไพ่ แบล็คแจ๊ค และ ไพ่ใบแรกที่เปิด ของเจ้ามือเป็นไพ่เอซ (Ace) เหมือนกัน ท่านสามารถเลือก “เก็บก่อน” เพื่อเป็นหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดผล แพ้-ชนะ แบบเสมอกับเจ้ามือนั่นเอง โดยเวลาได้ ไพ่แบล็คแจ๊ค อัตราจ่ายของเก็บก่อนจะเป็น 1:1 และ ไม่ว่าเจ้ามือได้ไพ่ ในลักษณะใดก็ตามนั้น ท่านจะชนะเดิมพันหนึ่งเท่าได้ทันที แต่หากท่านไม่ได้เลือกเก็บก่อนและเจ้ามือ ก็ได้ไพ่แบล็คแจ๊คจะถือว่าเสมอกัน โดยหากสุดท้ายแล้ว เจ้ามือยังไม่ได้ไพ่แบล็คแจ๊ค อัตราจ่ายจะอยู่ที่ 2: 3